เครื่องดูดควันแบบใดเหมาะที่สุดกับครัวคอนโดฯ?

หากคุณอาศัยอยู่คอนโดฯ หรืออพาร์ตเม้นท์ ที่มีเรื่องข้อจำกัดห้ามปล่อยควันในการประกอบอาหารสู่ภายนอกออกอาคาร อย่าเพิ่งพาลเซ็ง เพราะสมัยนี้มีเครื่องดูดควันที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้โดยไม่กระทบต่อกฎเหล็กของที่พักอาศัยหรือผู้ร่วมชายคา ดังนั้นเราจะพาไปรู้จักกับฟังก์ชั่นของเครื่องดูดควันที่สัมพันธ์ต่อพื้นที่จำกัด รวมถึงวิธีการคำนวณหากำลังดูดที่เหมาะสมกับการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้กัน

เครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนคืออะไร?
เครื่องดูดควันประเภทนี้ถือว่าถูกคิดค้นและผลิตขึ้นมาตอบโจทย์ข้อจำกัดของผู้อยู่อาศัยในคอนโดฯ และอพาร์ทเมนต์โดยเฉพาะ ซึ่งมีหลักการทำงานอันน่าสนใจตรงที่... เมื่อทำการดูดควันเข้าไปด้านใน จะมีฟิลเตอร์คาร์บอนทำหน้าที่คอยซับกลิ่นและกรองอากาศให้บริสุทธิ์ ก่อนปล่อยกลับมาสู่ห้องครัว  โดยฟิลเตอร์คาร์บอนมีอยู่ 2 รูปแบบคือ

1.แบบตลับ เป็นฟิลเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับกลิ่นได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมีอายุการใช้งานยาวนาน (ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 2 ปี)

2. แบบแผ่น ลักษณะของฟิลเตอร์มีขนาดเล็ก ข้อดีคือสามารถแกะมาทำความสะอาดได้ง่ายดายนั่นเอง (แต่ควรเปลี่ยนทุกๆ 3-4 เดือน หรือสอบถามผู้จำหน่ายสินค้าที่คุณไปเลือกซื้อ)

ปัจจุบันเครื่องดูดควันแบบ Slimline ที่เป็นระบบหมุนเวียน ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะโดดเด่นด้วยการออกแบบรูปทรงให้มีเส้นสายเรียบง่าย บาง กะทัดรัด จึงเหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ครัวเล็กๆ โดยเฉพาะ  แถมบางยี่ห้อยังผลิตด้วยสเตนเลสสตีลคุณภาพดี มีชนิดเคลือบสีให้ผู้ใช้สามารถเลือกนำไปตกแต่งอัพลุคห้องครัวให้แลดูทันสมัยได้ไม่ยาก (บางรุ่นยังสามารถติดตั้งได้ทั้งแบบต่อท่อ และแบบหมุนเวียนอีกด้วย)

เครื่องดูดควันแบบสลิมไลน์ ซีรีส์ 5 สีขาว ราคา 7,990 บาท


รูปทรงเรียบง่าย สวยงาม มีขนาดกะทัดรัด เพียง 600 มม. จึงเหมาะสำหรับใช้ในห้องครัวที่มีพื้นที่จำกัด 

• ผลิตจากสแตนเลสสตีล
• แผงด้าหน้าสีขาว
• กำลังดูด 750 ลบ.ม./ชม.
• หลอดไฟแบบมีไส้ 2x40 วัตต์
• สวิตช์แบบปุ่มสำหรับเปิด-ปิดไฟ
• ผรับแรงดูดได้ 2 ระดับ
• เปิดปิดด้วยการเลื่อนสไลด์เข้าออก
• ปลั๊กไฟฟ้า 3 ขาแบบมีระบบกราวด์
• ท่อลมระบายอากาศเส้นผ่าศูนย์กลาง 150 มม. 
• ติดตั้งได้ทั้งแบบท่อต่อและแบบหมุนเวียน
• แผ่นกรองน้ำมันแแบบอะลูมิเนียมหนา 3 ชั้น จำนวน 2 ชิ้น
• แผ่นกรองคาร์บอน (สำหรับติดตั้งแบบหมุนเวียน)
• พลังงานรวมที่ใช้ 240 วัตต์
• แรงดันไฟฟ้าที่ใช้งาน 220 โวลต์, 50/60 เฮิร์ตซ์
• ระดับเสียงขณะทำงานสูงสุด 60 เดซิเบล

สำหรับหัวใจสำคัญของการเลือกเครื่องดูดควันนั้นคือเรื่องของกำลังดูดอากาศ แน่นอนหากเลือกแรงดูดสูง ก็จะยิ่งซับกลิ่นและควันได้ดี แต่สำหรับเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนที่เหมาะกับงานครัวเบา ซึ่งนานๆ ครั้งทำอาหารสักหน หรือประกอบอาหารไม่หนักมาก (ไม่เหมือนครัวไทย) การเลือกกำลังดูดสักประมาณ 450- 850 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ก็น่าจะเพียงพอ ทั้งนี้ควรประกอบกับการคำนวณหากำลังดูดของเครื่องดูดควันที่เหมาะสมกับพื้นที่ด้วย โดยมีสูตรดังนี้
(ปริมาตรภายในห้องครัว กว้างxยาวxสูง) X10 = กำลังดูดลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง 


ป.ล. ควรเลือกเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนที่มีขนาดใหญ่กว่าเตาที่เลือกใช้นิดหนึ่ง จะสามารถดูดควันได้มีประสิทธิภาพกว่า

ป.ล. 2 ขณะประกอบอาหารมักมีไอน้ำกระจายอยู่ทั่ว เมื่อรวมตัวกับน้ำมันอาจทำให้กลายเป็นคราบไขมันเกาะตามตัวเครื่องและผนังของห้องครัว ดังนั้นหลังจากทำอาหารเสร็จควรหมั่นทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำยาล้างจานอ่อนๆ อยู่เป็นประจำจะช่วยให้ไม่เกิดคราบฝังแน่นขึ้นได้


หากกำลังมองหาเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน ดีไซน์สวย คุณภาพดี กำลังดูดแรง ลองเข้ามาดูสินค้าและรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Hafele

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-741-7171 หรือกดปุ่มด้านล่าง เพื่อโทรหาเรา

---

เฮเฟเล่ ประเทศไทย ผู้นำในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ฟิตติ้ง เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ ระบบควบคุมการเข้าออกอาคารอุปกรณ์ล็อคอิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ อีกมากมาย

เฮเฟเล่ได้นำองค์ความรู้เฉพาะทาง และความเชี่ยวชาญอันยาวนาน มาต่อยอดเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพิ่มศักยภาพการผลิตและการบริการให้สมบูรณ์แบบยิ่งๆ ขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมของเฮเฟเล่ จึงเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ด้วยแนวคิด “Thinking Ahead : การคิดไปข้างหน้า” เฮเฟเล่ ประเทศไทย จะมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งตามวิสัยทัศน์ของเราที่ว่า “Complete Building Solutions : อุปกรณ์ครบ จบทุกเรื่องงานอาคาร” ตอบสนองโลกแห่งการก่อสร้างและการอยู่อาศัยให้สมบูรณ์แบบยิ่งๆ ขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยม และบริการที่เหนือชั้น พร้อมสานสัมพันธ์อย่างยั่งยืนกับลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ และตลอดจนสังคมไทยตลอดไป